เกี่ยวกับมูลนิธิ

(About)

สมเด็จพระสังฆราช โชติปาล มหาเถโร ประเทศบังคลาเทศ เกิดในครอบครัวชาวพุทธ ที่ จังหวัด โคมิลล่า เมื่อคศ. 1911  (พ.ศ.2454)  และสิ้นพระชนม์เมื่อ 12  เมษายน 2002 (พ.ศ. 2545 )

พื้นที่ ของ  Lalmai-Maynamaiti มีอาณาบริเวณกว้างขวาง รัศมีความยาว วัดจากทิศเหนือ ไปทิศใต้ ยาวประมาณ 31 กิโลเมตร ความกว้างจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก ในเขต โคมิลล่า ประมาณ 8-16 กิโลเมตร   ปัจจุบันความเจริญรุ่งเรือง เป็นของ Samatat เมืองหลวงเก่า ซึ่งเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 7-13 อยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์ชาวพุทธ

จากการขุดค้น เพื่อศึกษาและเรียนรู้แหล่งอารยธรรมเก่าแก่  ได้พบซากปรักหักพังมากมาย หลากหลายอย่าง ณ.พื้นที่บริเวณนี้ ซึ่งเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่น่าสนใจแหล่งหนึ่งของโลก นอกจากนี้ยังได้ค้นพบคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาที่ระบุว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เคยเสด็จ และ ประทับอยู่ ณ. สถานที่ บริเวณนี้ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 6  ทำให้บริเวณนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีชื่อเสียงระดับโลก

                มี Bhikkhu Shilabhadra ที่เป็น หนึ่งใน Achariya ของ Nalanda มหาวิทยาลัย ซึ่งตั้งอยู่ในทวีป Asia  ที่มีครู อาจารย์มากกว่า 1,100 คน และมีนักเรียนกว่า 10,000 คนในรัฐพิหารของอินเดียในปัจจุบัน

                พระภิกษุสงฆ์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ซึ่งได้เขียนหนังสือ และรวบรวมหนังสือธรรมะไว้มากมายหลายเล่ม รวมทั้งประวัติพระโพธิสัตว์ในอนาคต  Budhisattvavatar  ท่านนั้นคือ สมเด็จพระสังฆราช โชติปาล มหาเถโร ซึ่งถือเป็นผู้สืบทอดอำนาจ เป็นมรดกของพระสงฆ์ในรุ่นต่อมา เป็นผู้ที่ทำชื่อเสียงระดับโลกให้เกิดขึ้น ในพื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้

ผลงานของท่านเป็นผลงานเขียนและแปลจากหนังสือธรรมะที่มีอยู่เพียงไม่กี่เล่ม ให้เป็นหนังสือมากมายหลายเล่มมีเนื้อหา ข้อความ นำไปใช้ในมหาวิทยาลัย กัลกัตตา  ของอินเดีย  มหาวิทยาลัยดาก้า และมหาวิทยาลัย จิตตะกอง ของ บังคลาเทศ

สถานประกอบการของมูลนิธิฯ 

สมเด็จพระสังฆราช  โชติปาล มหาเถโร เป็นพระสังฆราชองค์ที่ 10 ของบังคลาเทศ ระหว่าง 15 มกราคม 2000 – 12 เมษายน 2002 (2 ปี 3 เดือน)    ตลอดชีวิตของพระองค์ท่านได้ทำหน้าที่ขจัดปัดเป่าความทุกข์ให้กับมนุษยชาติ โดยการก่อสร้างวัด ในพระพุทธศาสนาหลายแห่ง สร้างโรงเรียนสำหรับเด็กชาย และเด็กหญิง ตั้งสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้า     และอื่นๆ   ที่เป็นองค์กรสวัสดิการสังคม

ในพื้นที่ จังหวัด โคมิลล่า  จิตตะกองและอำเภออื่นๆของประเทศ

นอกจากนั้น พระองค์และเหล่าลูกศิษย์สาวก รวมทั้งชาวพุทธที่มีจิตศรัทธา ได้มีวัตถุประสงค์ร่วมกันในการที่จะรักษา และสานต่อการพัฒนาสถาบันและองค์กรต่างๆของท่านไว้ โดยการจัดตั้ง Sangharaj Jyotipal Mahathero Foundation   ( SJMF)  มีสำนักงานใหญ่ที่  บาไรเกรา คอมเพล็กซ์ Post Office:Bhorajagotpur, Upazila : Laksam ,เขต จังหวัด Comilla

                สำหรับสมาชิกและคณะกรรมการมูลนิธิ มี 3 ประเภท คือ สมาชิกทั่วไป. สมาชิกตลอดชีพ และสมาชิกบริจาค   มูลนิธิมีคณะกรรมการ 17 ท่าน ซึ่งทั้งสมาชิกและคณะกรรมการ จะมีการประชุม ปรึกษา ลงมติอย่างถูกต้อง ดีที่สุดในการจัดการตามนโยบายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของ SJMF ต่อไป

 วัตถุประสงค์ของ มูลนิธิ คือ

1. ดำรงไว้ซึ่งการรักษา และ พัฒนาองค์กร สถาบันที่สมเด็จพระสังฆราชฯได้จัดตั้งขึ้น

2.ให้สวัสดิการ การช่วยเหลือกับเด็กนักเรียนยากจน และเด็กกำพร้าที่ทำความดี

     น่ายกย่อง โดยไม่คำนึงถึงชั้น วรรณะ และลัทธิความเชื่อ เพื่อสนับสนุนการศึกษา

3.จัดการ ดูแลสถาบันเทคนิค โรงเรียนที่มีนักเรียนชาวพุทธให้ได้ อาศัยในหอพัก และ                   สถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้า และจัดสถานที่พักอาศัยให้กับพระภิกษุสงฆ์ ไม่ว่าบังคลาเทศ หรือต่างชาติ โดยจัดเป็นสัดส่วนแต่ละพื้นที่ให้เหมาะสม

4. ดูแลจัดการให้บริการห้องสมุดที่มีหนังสือศาสนา สังคม และวัฒนธรรม

5. ดำเนินการตามนโยบายในเรื่องการพัฒนา เศรษฐกิจ และสังคมให้กับคนด้อยโอกาส

6. ดูแล รักษา ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา รวมทั้ง เว็บไซด์ข้อมูล การขุดค้นต่างๆไว้             ให้ดี เพื่อใช้ประโยชน์

7. ระวัง รักษา ศาสนสถาน วัดต่างๆ ไม่ให้เสียหาย หรือได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ

8. มีหน้าที่ รับผิดชอบ จัดทำโครงการนำเสนอ เพื่อขอรับการสนับสนุน ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ภัยหนาว ฯลฯ

มูลนิธิได้ให้ความร่วมมือ  ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนที่จำเป็น กับหน่วยงาน องค์กรอื่นๆ   เช่น แหล่งข้อมูลการเงิน ข้อมูลทางเทคนิค ซึ่งมีการทำรายงานประจำปี ให้ความร่วมมือทำกิจกรรมร่วมกับหน่วยงาน องค์กร และขยายความร่วมมือดังกล่าวให้กว้างขวาง เพื่อสนับสนุนกันและกัน    ดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ในความเป็นมูลนิธิสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเป็นที่นิยมและยอมรับอย่างยิ่งในสังคมทั่วไป

การเผยแผ่ ขยายพระพุทธศาสนา

จากวัดโบไรเกา ของ สมเด็จพระสังฆราช แล้ว ได้มีการสร้างวัดนิวสาลวันวิหาร ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของวัดโบไรเกา ใน โคมิลล่า ต่อจากนั้นได้เผยแผ่พุทธศาสนาไปทางเหนือ  ให้กับชาวเบงกอลเหนือเกิดความศรัทธา  โดยมีการสร้างวัด 18 วัดตามจังหวัดต่างๆใน 7 จังหวัดของเบงกอลเหนือ เพื่อให้ชาวพุทธเก่า และชาวพุทธใหม่ ได้มีสถานที่ สวดมนต์ ทำสมาธิ ภาวนา ฟังธรรมะคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนาต่อไป  แต่ยังไม่สมบูรณ์

                ปัจจุบันเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่มูลนิธิวัดพระธรรมกาย ได้ให้ความสนใจที่จะขยาย พระพุทธศาสนา เผยแผ่ไปยังจังหวัดโคมิลล่า และเบงกอลเหนือ  ซึ่งมูลนิธิสังฆราช โชติปาล มหาเถโร มีความยินดี และจะให้ความร่วมมือในทุกด้านอย่างดีที่สุด เท่าที่สามารถทำได้   แต่อย่างไรก็จำเป็นที่จะต้องได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิวัดพระธรรมกายเป็นอย่างมาก

                สำหรับที่เบงกอลเหนือ  ขณะนี้ กำลังมีผู้ที่ศรัทธาเริ่มเข้ามานับถือพระพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นรื่อยๆซึ่งถือเป็น ชาวพุทธใหม่ โดยมีพระสีลภัทระ มหาเถโร  เป็นผู้นำการเผยแผ่  แต่ยังขาดสถานที่ที่เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ศึกษา อบรมและปฏิบัติธรรมทางพระพุทธศาสนาที่เหมาะสม จึงยังต้องการ การสนับสนุนอย่างจริงจังจาก หน่วยงาน หรือองค์กรชาวพุทธเป็นผู้สร้างสรรค์ เพื่อขยายงานพระพุทธศาสนาให้กว้างขวาง และมั่นคงต่อไป